Archive for 2014
แนวทางปฏิบัติการขอเลือด
1.ขั้นการเขียนใบขอเลือดและเจาะเลือดผู้ป่วย
1.1 เขียนใบขอเลือดโดยกรอกข้อมูลรายละเอียดต่างๆ ลงในใบขอเลือด ให้ถูกต้อง ครบถ้วน ชัดเจน ระบุวันจะใช้ หรือ “ด่วน” ถ้ากรอกรายละเอียดไม่ถูกต้อง ไม่ครบถ้วน หรือลายมือที่อ่านยาก ฝ่ายธนาคารเลือด รพ.สตูล จะปฏิเสธ ไม่รับดำเนินการให้ ต้องกลับมาแก้ไขให้ถูกต้องก่อน
1.2 การสั่งขอเลือดในคอมพิวเตอร์ระบบ Hos-OS แล้วเลือก ชนิดของโลหิตที่ขอ เช่น Pack red cell 1 unit(23201)พร้อมทั้งยืนยันและดำเนินการค่าการจัดการการรับบริจาคโลหิต ถ้าขอ 2 Units ก็ให้สั่งซ้ำ 2 ครั้ง รพ.สตูลสามารถเตรียมส่วนประกอบโลหิตได้ทุกชนิด
1.3 การเจาะเลือดผู้ป่วย ก่อนเจาะเลือดให้ติดสติกเกอร์ที่ตรงกับใบขอเลือด ตามข้อ 1.1
1.4 ทำการเจาะเลือดผู้ป่วย อย่างถูกวิธี ไม่ให้เกิดการแตกของเม็ดเลือดแดง( Hemolysis )และเจาะไม่ผิดตัว โดยถามว่า ชื่อ – นามสกุลอะไรครับ/ค่ะ เพื่อให้ผู้ป่วยตอบชื่อ – นามสกุลของเขาเอง เมื่อการระบุตัวผู้ป่วยถูกต้อง ตรงกับใบขอเลือดและข้างหลอด จึงทำการเจาะเลือด จำนวนประมาณ 6 มล. (ฝาสีแดง)ใส่ในหลอดสำหรับขอเลือดโดยเฉพาะ ไม่ต้องคว่ำ –หงายหลอด นำส่งห้องปฏิบัติการพร้อมใบขอเลือด
1.5
ในทางปฏิบัติหากต้องการเตรียมความพร้อมในการให้เลือด
หรือต้องการเจาะเลือดไว้รอคำสั่งอนุมัติจากแพทย์สามารถเจาะเก็บไว้ที่ห้องปฏิบัติการได้แต่ไม่ต้องส่งใบขอเลือด
เมื่อแพทย์มีคำสั่งอนุมัติให้นำใบขอเลือดมายังห้องปฏิบัติเพื่อขอเลือดเป็นลำดับถัดไป(ควรทำในรายจำเป็นและให้เน้นการประหยัดในการใช้อุปกรณ์
labควบคู่กันไปด้วย)
2. ขั้นลงทะเบียนและไปขอเลือด
2.1 ลงทะเบียนรับสิ่งส่งตรวจ เจ้าหน้าที่งานชันสูตรฯ ตรวจสอบความถูกต้อง ครบถ้วน ของหลอดเลือด ใบขอเลือด และใบจ่ายเลือดใบเดิม (กรณีรับป่วยยังไม่จำหน่าย และมีการขอเลือดซ้ำอีก – ต้องนำใบนี้ไปด้วยเพื่อตรวจสอบกับครั้งที่แล้ว )
2.2 ตรวจหาหมู่เลือดระบบ ABO และระบบ Rh ของผู้ป่วย โดยวิธี Cell grouping – slide method จากเลือดที่ส่งมาพร้อมกับใบขอเลือด แล้วบันทึกผลในคอมพิวเตอร์ระบบ Hos-OS
2.3 เตรียมอุปกรณ์ (กระติกและ Ice pack) สำหรับใส่หลอดเลือดไปขณะนำส่งและใส่ถุงเลือดกลับมา
2.4 ลงข้อมูลใน โปรแกรม LAB REFER หรือใบส่งlabที่เหมาะสม พร้อมใบขอรถ และประสานขอใช้รถให้ไปขอเลือด(ในวันเวลาราชการ)
2.1 ลงทะเบียนรับสิ่งส่งตรวจ เจ้าหน้าที่งานชันสูตรฯ ตรวจสอบความถูกต้อง ครบถ้วน ของหลอดเลือด ใบขอเลือด และใบจ่ายเลือดใบเดิม (กรณีรับป่วยยังไม่จำหน่าย และมีการขอเลือดซ้ำอีก – ต้องนำใบนี้ไปด้วยเพื่อตรวจสอบกับครั้งที่แล้ว )
2.2 ตรวจหาหมู่เลือดระบบ ABO และระบบ Rh ของผู้ป่วย โดยวิธี Cell grouping – slide method จากเลือดที่ส่งมาพร้อมกับใบขอเลือด แล้วบันทึกผลในคอมพิวเตอร์ระบบ Hos-OS
2.3 เตรียมอุปกรณ์ (กระติกและ Ice pack) สำหรับใส่หลอดเลือดไปขณะนำส่งและใส่ถุงเลือดกลับมา
2.4 ลงข้อมูลใน โปรแกรม LAB REFER หรือใบส่งlabที่เหมาะสม พร้อมใบขอรถ และประสานขอใช้รถให้ไปขอเลือด(ในวันเวลาราชการ)
2.5
นอกเวลาราชการ ในทางปฏิบัติห้องปฏิบัติการไม่สามารถขอรถได้ ให้หน่วยงานที่ขอเลือดประสานขอใช้รถให้ไปขอเลือดแทน
ส่วนห้องปฏิบัติการจะอำนวยความสะดวกในการประสานงานและติดตาม ตามปกติ
3. ขั้นการเก็บและขนย้ายโลหิต
3.1 เก็บในตู้เย็นที่ควบคุมอุณหภูมิ 4 ±2 องศาเซลเซียส เก็บได้นานตามชนิดของน้ำยากันเลือดแข็งที่ใช้ (อ่านรายละเอียดที่ข้างถุงเลือด)
3.2 การขนย้าย ควรบรรจุถุงโลหิต ในภาชนะที่มีอุณหภูมิ ใกล้เคียง 4 ±2 องศาเซลเซียส (ไม่เกิน 10 องศาเซลเซียส)
3.3 เมื่อพลขับกลับจาก รพ.สตูล มาถึง รพ.ควนโดน จะนำส่งให้เจ้าหน้าที่งานชันสูตรเพื่อตรวจสอบความถูกต้อง ก่อนจ่ายโลหิต
3.1 เก็บในตู้เย็นที่ควบคุมอุณหภูมิ 4 ±2 องศาเซลเซียส เก็บได้นานตามชนิดของน้ำยากันเลือดแข็งที่ใช้ (อ่านรายละเอียดที่ข้างถุงเลือด)
3.2 การขนย้าย ควรบรรจุถุงโลหิต ในภาชนะที่มีอุณหภูมิ ใกล้เคียง 4 ±2 องศาเซลเซียส (ไม่เกิน 10 องศาเซลเซียส)
3.3 เมื่อพลขับกลับจาก รพ.สตูล มาถึง รพ.ควนโดน จะนำส่งให้เจ้าหน้าที่งานชันสูตรเพื่อตรวจสอบความถูกต้อง ก่อนจ่ายโลหิต
4. ขั้นการจ่ายเลือดให้ผู้ป่วย
4.1 ก่อนจ่ายเลือด เจ้าหน้าที่งานชันสูตรฯ จะลงทะเบียนโปรแกรม LAB REFER พร้อมพิมพ์ ใบเฝ้าระวังปฏิกิริยาการให้เลือด (FM-KD-LAB-021) หรือใบเฝ้าระวังที่เหมาะสม เพื่อตรวจสอบ ความถูกต้องของหมู่เลือด ความครบถ้วนของจำนวนโลหิต หมายเลขถุงเลือดที่ได้รับมา เก็บเอกสารการจ่ายเลือดของ รพ.สตูล ไว้ เมื่อเสร็จเรียบร้อย จะโทร.ให้ หน่วยที่ขอ มารับเลือดและชุด (Set)ให้เลือด
4.2 การให้เลือดแก่ผู้ป่วยที่ Ward, ER หรือ LR จะมีการปฏิบัติตามขั้นตอน ภายใต้การกำกับดูแล เฝ้าดูอาการ โดยแพทย์และพยาบาล อย่างใกล้ชิด (FM-KD-LAB-021)
4.1 ก่อนจ่ายเลือด เจ้าหน้าที่งานชันสูตรฯ จะลงทะเบียนโปรแกรม LAB REFER พร้อมพิมพ์ ใบเฝ้าระวังปฏิกิริยาการให้เลือด (FM-KD-LAB-021) หรือใบเฝ้าระวังที่เหมาะสม เพื่อตรวจสอบ ความถูกต้องของหมู่เลือด ความครบถ้วนของจำนวนโลหิต หมายเลขถุงเลือดที่ได้รับมา เก็บเอกสารการจ่ายเลือดของ รพ.สตูล ไว้ เมื่อเสร็จเรียบร้อย จะโทร.ให้ หน่วยที่ขอ มารับเลือดและชุด (Set)ให้เลือด
4.2 การให้เลือดแก่ผู้ป่วยที่ Ward, ER หรือ LR จะมีการปฏิบัติตามขั้นตอน ภายใต้การกำกับดูแล เฝ้าดูอาการ โดยแพทย์และพยาบาล อย่างใกล้ชิด (FM-KD-LAB-021)
5. ขั้นการนำเลือด ส่งคืน รพ.สตูล
5.1 เลือดที่ไม่ได้ให้แก่ผู้ป่วย เจ้าหน้าที่ของหน่วยที่ขอใช้เลือด จะนำส่งคืนมาที่งานชันสูตร นำส่งคืนไปที่ รพ.สตูล (จ่ายเฉพาะค่า Matching เท่านั้น)
5.2 เกณฑ์การพิจารณาการส่งคืนเลือด
· PRC ถ้าเตรียมแบบระบบเปิด ต้องใช้ภายใน 24 ชั่วโมง (เลยเวลาห้ามใช้-ทิ้งลงถุงแดง)ในภาชนะที่มีอุณหภูมิ
ใกล้เคียง 4 ±2 องศาเซลเซียส
· PRC ถ้าเตรียมแบบระบบปิด วันหมดอายุ ดูที่ข้างถุงเลือด
· เกล็ดเลือด มีอายุ 24 ชั่วโมง หรืออย่างมากที่สุด 5 วันที่อุณหภูมิ 4 องศาเซลเซียส
· FFP เก็บที่ Deep freeze เมื่อนำมาละลายแล้ว ใช้ให้หมดภายใน 4 ชั่วโมง (ไม่ใช้ให้ทิ้ง)
· ส่วนประกอบโลหิตชนิดอื่นๆ ดูวันหมดอายุที่ข้างถุงเลือด
· ขอ Plt conc. หรือ Cryoprecipitated ให้จองล่วงหน้า
· PRC ถ้าเตรียมแบบระบบปิด วันหมดอายุ ดูที่ข้างถุงเลือด
· เกล็ดเลือด มีอายุ 24 ชั่วโมง หรืออย่างมากที่สุด 5 วันที่อุณหภูมิ 4 องศาเซลเซียส
· FFP เก็บที่ Deep freeze เมื่อนำมาละลายแล้ว ใช้ให้หมดภายใน 4 ชั่วโมง (ไม่ใช้ให้ทิ้ง)
· ส่วนประกอบโลหิตชนิดอื่นๆ ดูวันหมดอายุที่ข้างถุงเลือด
· ขอ Plt conc. หรือ Cryoprecipitated ให้จองล่วงหน้า
6. กรณีที่ รพ.สตูล ขาดแคลนเลือด แนวทางแก้ไข มีเป็นลำดับดังนี้
· ประสานกับ รพ.ละงู
· ประสานญาติผู้ป่วย เพื่อให้ไปบริจาคทดแทน
· แผนกพยาธิ รพ.ตรัง
แนวทางการเก็บเลือด
เพื่อการเพาะเชื้อ ให้ปฏิบัติดังนี้
1. ก่อนเจาะเลือด นำขวด hemoculture ออกจากตู้เย็น
ให้อุณหภูมิเท่ากับอุณหภูมิห้อง
2. เลือกชนิดของขวด hemoculture ให้ถูกต้องกับสิ่งส่งตรวจที่ต้องการเก็บ
ดังนี้
ขวด BacT/Alert สำหรับเพาะเชื้อ aerobe, anaerobe
และ fungus แบ่งเป็น 3 ชนิด
-
ขวด BacT/Alert FA สำหรับผู้ใหญ่หรือเด็กโต
ปริมาณเลือดที่เก็บขวดละ 5-10 มล.
-
ขวด BacT/Alert PF สำหรับเด็กเล็ก
ปริมาณเลือดที่เก็บขวดละ 0.5-4 มล.
-
ขวด BacT/Alert
MB สำหรับเพาะเชื้อ TB ปริมาณเลือดที่เก็บขวดละ3-5 มล.
ขอรับขวดเหล่านี้ได้ที่ห้องปฏิบัติการจุลชีววิทยาคลินิก
ในวันที่ต้องการส่งตรวจ
ข้างขวด hemoculture
จะมีbarcode ที่เป็น serial number สำหรับติดต่อกับการทำงานของเครื่อง ดังนั้นการติดแถบข้อมูลใดๆ
ของผู้ป่วยห้ามไม่ให้ปิดทับ serial number นี้หรือทำให้ฉีกขาด 3. ปิดฉลาก ชื่อ-สกุล H.N. อายุ หอผู้ป่วย ลำดับที่ของขวด เวลาที่เจาะเก็บ และข้อมูลอื่นๆ ที่จำเป็นบนฉลากข้างขวด ห้ามปิดทับ barcode ของขวดหรือทำให้serial barcode ของขวดฉีกขาด
4. ควรเจาะเลือดก่อนให้ยาปฏิชีวนะ หรือเจาะเลือดก่อนให้ยาปฏิชีวนะครั้งต่อไป เจาะเลือด 2-3 ครั้ง ห่างกันครั้งละ 30-60 นาทีในผู้ป่วยที่มีอาการหนักต้องให้ยาต้านจุลชีพด่วน อาจเจาะเลือดห่างกันในระยะเวลาที่น้อยลง
5. ทำความสะอาดบริเวณที่เจาะเลือดด้วย 2% Chlorhexidine ทิ้งไว้ไม่ต่ำกว่า 1 นาที ควรปล่อยให้บริเวณที่เช็ดแห้งก่อนเจาะเลือด และไม่ควรเจาะเลือดจากสายที่ให้สารละลายเข้าหลอดเลือด
6. ใช้เทคนิคปราศจากเชื้อ ในการถ่ายเลือดจาก syringe ลงขวด hemoculture
7. นำส่งทันทีหากส่งช้าให้วางที่อุณหภูมิห้องไม่ควรเกิน 1 ชม. ห้ามเก็บในตู้เย็น เมื่อนำส่งถึง lab จะ incubate ที่ 35-37 c
8. ขวด hemoculture ใช้เฉพาะเลือดและไขกระดูก (bone marrow) เท่านั้น ถ้าเป็น body fluids ให้ใส่ในขวด sterile หรือขวด body fluids
การแปลผล
เมื่อพบแบคทีเรียต่อไปนี้ในการเพาะเชื้อจากเลือด
ก็อาจให้ความเห็นได้แน่นอนว่าเป็นเชื้อก่อ โรคคือ
-
E. coli
-
Klebsiella pneumoniae
- Enterobacter spp.
- Enterobacter spp.
-
Salmonella spp.
- Streptococcus group A และ group อื่นๆ
- Streptococcus viridans
- Streptococcus pneumoniae
- Haemophilus influenzae
- Neissria meningitides
- Vibrio spp. เป็นต้น
- Streptococcus group A และ group อื่นๆ
- Streptococcus viridans
- Streptococcus pneumoniae
- Haemophilus influenzae
- Neissria meningitides
- Vibrio spp. เป็นต้น
สำหรับเชื้อที่มักพบ
contaminate
จากผิวหนัง
- diphtheroids
- Bacillus spp.
- Staphylococcus epidermidis
- Bacillus spp.
- Staphylococcus epidermidis
ยกเว้นในกรณีที่พบเชื้ออย่างน้อย
2 ใน 3ของการส่งตรวจหรือในผู้ป่วยที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อฉวยโอกาสสูงซึ่งจะต้อง
Identify และทำ Sensitivity test ต่อซึ่งการจะตัดสินว่าเชื้อนั้นเป็นสาเหตุของโรคหรือไม่ก็จำเป็นต้องใช้อาการทางคลินิกช่วยพิจารณาด้วย
การทดสอบ
|
วิธีวิเคราะห์
|
สิ่งส่งตรวจ
|
วันทำ
|
ประกันเวลา
|
1.
การย้อมสีชนิดต่างๆ
1.1 Gram stain
|
ย้อมสี
|
Pus,
sputum จากคลินิกเท่านั้น, tissue, urine, body fluids,
CSF
|
ทุกวัน
|
1
วัน
|
1.2 Acid fast stain
|
ย้อมสี
fast
stain
|
Pus,
sputum, tissue, body fluids, CSF
Stool
(swab) เฉพาะรายที่มีanti-HIV positive เท่านั้น
|
ทุกวัน
|
1
วัน
|
1.3 Modified acid
|
ย้อมสี
fast
stain
|
Pus,
sputum, tissue, body fluids และ CSF
|
ทุกวัน
|
1
วัน
|
1.4 India ink stain
|
ย้อมสี
|
CSF
|
ทุกวัน
|
1
วัน
|
1.5 KOH
|
ย้อมสี
|
Pus,
sputum, ผิวหนัง, ผม, เล็บ
|
ทุกวัน
|
1
วัน
|
2.
Culture
for aerobe
|
เพาะเชื้อ/ทดสอบความไวของเชื้อต่อยาปฏิชีวนะ
|
1.
Blood
2.
Body
fluids/CSF
3.
Pus/genital
pus
4.
Rectal
swab/stool
5.
Sputum/throat
swab
6.
Tissue/catheter
tip/others
7.
Urine
|
ทุกวัน
|
3
วัน
3
วัน
5
วัน
5
วัน
5
วัน
5
วัน
5
วัน
|
3.
Culture
for anerobe
|
เพาะเชื้อ/ทดสอบความไวของเชื้อต่อยาปฏิชีวนะ
|
1.
หนองจากแผลลึก
ความไวของเชื้อ
2.
หนองจากฝีในอวัยวะภายใน
ต่อยาปฏิชีวนะ
3.
แผลที่มีเนื้อตายหรือมีอากาศอยู่
4.
แผลที่อยู่ใกล้กับเยื่อเมือก
5.
แผลที่ถูกคนหรือสัตว์กัด
|
ทุกวันราชการ
|
10
วัน
|
การทดสอบ
|
วิธีวิเคราะห์
|
สิ่งส่งตรวจ
|
วันทำ
|
ประกันเวลา
|
4.
Culture
for mycobacteria
-
TB (manual)
-
TB-MB BacT(automate)
ส่งก่อนเวลา
15.30 น.
|
เพาะเชื้อ
|
Blood,
pus, sputum, tissue, body fluids, CSF
|
ทุกวันราชการ
|
2
เดือน
45
วัน
|
5.
Culture for fungus
|
เพาะเชื้อ
|
Blood,
pus, sputum, tissue,ผิวหนัง, ผม, เล็บ, body fluids และ CSF
|
ทุกวันราชการ
|
2 สัปดาห์
|
6.
Culture
for
B.
pseudomallei
|
เพาะเชื้อ/ทดสอบความไวของเชื้อต่อยาปฏิชีวนะ
|
Pus,
sputum, tissue, body fluids, stool
|
ทุกวันราชการ
|
10
วัน
|
7.
Culture for C. diptheriae
|
เพาะเชื้อ/ทดสอบความไวของเชื้อต่อยาปฏิชีวนะ
|
Throat
swab
|
ทุกวันราชการ
|
7 วัน
|
8.
Culture
for C. jejuni
|
เพาะเชื้อ/ทดสอบความไวของเชื้อต่อยาปฏิชีวนะ
|
Rectal
swab หรือ stool
|
ทุกวันราชการ
|
7 วัน
|
9.
Culture
for B. pertussis
|
เพาะเชื้อ/ทดสอบความไวของเชื้อต่อยาปฏิชีวนะ
|
Nasopharyngeal
swab
|
ทุกวันราชการ
|
7 วัน
|
10.
Culture
for Brucella
|
เพาะเชื้อ/ทดสอบความไวของเชื้อต่อยาปฏิชีวนะ
|
Blood,
pus
|
ทุกวันราชการ
|
5
- 10 วัน
|
11.
Culture
for Culture for RO fluid (การเพาะเชื้อจาก น้ำไตเทียม)
|
เพาะเชื้อและทำ dialysate colony
count
|
น้ำไตเทียม
|
ทุกวันราชการ
|
5
-10 วัน
|
12.
Culture
for drinking water (การเพาะเชื้อจากน้ำดื่ม)
|
เพาะเชื้อ, MPNและ colony count
|
น้ำดื่ม
น้ำใช้
|
ทุกวันราชการ
|
5
-10 วัน
|